วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

เลี้ยงปลาทองไม่ยากอย่างที่คิด.....จริงๆนะ

ผมเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กว่า ปลาทองเลี้ยงยาก ตายง่าย  แท้ที่จริงแล้ว ปลาสวยงามเกืิอบทุกชนิดก้เลี้ยงยากและตายง่ายๆเช่นเดียวกับปลาทอง ถ้าคุณขาดความเข้าใจและใส่ใจ   ผมยอมรับคับว่าผม ไม่ได้เลี้ยงปลาทองมาตั้งแต่เด็ก  แต่ปัจจุบันผมเลี้ยงปลาทอง หัวสิงค์ (สายพันธุ์ผสม) จำนวน10ตัว  และ ลูกน้อยอีก ราวๆ30-40 ตัว   ยุ่งยากหน่อย เหนื่อยหน่อย  แต่คุ้มค่าคับ สำหรับความสุขในการมองปลาทองตัวน้อยๆหรือตัวอ้วนๆได้แหวกว่ายไปมาในอ่างปลา ถึงแม้มันจะะเป็นกะละมังใบล่ะไม่กี่ร้อยก็เถอะ   
    ขั้นตอนแรกของคนที่คิดจะเลี้ยงปลาทอง 
1. คุณต้องหาข้อมูลเบื้องต้น  ว่าคุต้องการปลาทองสายพันธุ์อะไร
    1.1รันชู
    1.2สิงค์ ปลาทองหัวสิงค์นี้ ยังแบ่งออกนะคับ อีก 3 สายพันธุืด้วยกัน
          1.2.1 สิงค์ ญี่ปุ่น  (เพาะพันธุืยากหน่อย)
          1.2.2 สิ่งจีน  (เพาะพันธุ์ง่าย )
          1.2.3 สิงค์ ผสม ระหว่างจีนและญี่ปุ่น  อันนี้สวย และเพาะพันธุ์ง่าย  
    1.3 สิงค์ ดำตามิด  คล้ายปลาทองหัวสิงค์ แต่ สีดำคับ
    1.4 ฮอรันดา คล้ายกับสิงค์คับแต่มีกระโดงหลัง
    1.5 ริวกิ้น
    1.6 โตซากิ้น  (โตซา)
    1.7 รักเร่
   1.8 เกร็ดแก้ว
    1.9 ปลาตากลับ
    จริงๆแล้วยังมีอีกนะคับ แต่ผมว่า ผมบอกชื่อที่น่้าสนใจดีกว่าคับ   เพราะตัวผมเองก็สนใจแต่ปลาทองที่ไม่มีกระโดงหลังเท่านั้นคับ มีบ้างที่สนใจปลามีกระโดงหลังเช้า  โตซากิ้น แต่ไม่มีความเชี่ยวชาญนะคับ เพราะ ถนัดสิงค์มากกว่าคับ


 2.ขั้นของการเตรียมตัว(เตรียมน้ำ)
หลังจากที่คุณได้สายพันธุืที่ถูกใจแล้ว ต่อมาคือการเครียมตัวเบื้องต้นคับ ให้หาถึงน้ำมาคับ  แล้วเปิดน้ำรองใส่ถัง  เอาไว้คับ ตากแดดไว้  ก่อนที่จะซื้อปลาสัก 2-3 วัน    อิอิ  จริงๆแล้วเดี๋ยวนี้เค้ามียาละคลอรีนแล้วนะคับ แต่ผมว่า มือใหม่เอาชัวก่อนดีดว่า  ส่วนตัวผม ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นครับ เปิดความร้อนแรงสุด รองน้ำทิ้งไว้ 1คืน เปิดฝาทิ่งไว้นะคับอย่าปิด  เพื่อให้อุณภูมิของน้ำ เย็นลงเท่ากับอากาศปกติของห้อง
3.ขั้นของการซื้อปลาและอุปกรณ์
ขั้นสำคัญนะคับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้เดินดูราคาและตัวปลาให้ทั่วก่อนคับ อิอิ  ผมทำประจำ
 ขั้นตอนของการเลือกปลา 
     ง่าายๆคับ  ดูปลาที่ ลักษณะที่ครบถ้วน หางไม่แหวง  ครีบไม่ขาด และมีครีบครบถ้วน  ปลาไม่มีจุดเลือดสีแดง เกลียดไม่พองออก  ปลาไม่อยู่นิ่งๆก้นตู้ ปลาว่ายน้ำตรงไม่ว่ายเอียง เหลืองทั้งสองข้าง ขยับพร้อมกๆกัน ตัวปละครีบปลาไม่มีบาดแผล  ส่วนเรื่องของ ส่วนเรือ่งของราคา ขึ้นอยู่กับมาร์คกิ้งของปลาหรือโครงสร้างของปลาคับ  เพราะถ้าทรงสวยมาร์ดดี  ก้จะแพงหนอ่ยคับ  ถ้าถามว่าซื้อปลาราคาไหนดี ผมบอกเลยคับว่าขึ้นอยู่กับ กำลังทรัพย์ และควาามพึงพอใจคับ โดยส่วนตัวผม ผทชอบคยวามพึงพอใจมากกว่าคับ ส่วนเรื่องของราคา ก็รองลงไปคับ เพราะผมเองมักเลือกปลาเกระเลี้ยงดูเล่นคับ ไม่ได้ประกวดเลยไม่ค่อยซีัเรียจคับ  หลังจากได้ปลาเป้นที่เรียบร้อย  ก้ต้องถามผู้ค้าคับว่า ปลากินอาหารยี่ห้ออะไร   ให้อาหารเวลาไหนบ้าง  แล้วยาเพื่อป้องกันปลาป่วยเบื้องต้น ต้องใช้ยาอะไร  ให้เท่าไหร่  ใช้กี่วัน  แล้วปลาจำนวนที่ซื้อ ต้องใช้ตุ้ไซร์ไหน (อิอิ  เริ่มขอคำปรึกษาและคับ)  ต้องใส่น้ำเท่าไหร่  กี่เซน น้ำนี้ต้องใส่ยาอะไรมั้ย  ปลากินอะไรได้บ้าง  ก่อนเอาปลาลงตู้ต้องทำไงบ้าง  ตบท้ายด้วยวิธีการให้เค้าแนะนำร้านตู้ปลาราคาพิเศษให้  และก็ขอเบอร์ ผู้ค้าด้วยคับเผื่อ จะได้โทรปรึกษาเรื่องปลาได้คับ  
4.ขั้นตอนของการนำปลาลงตุ้(การขึ้นน้ำ) 
 ก่อนอื่นเลยคับ  นำตู้ปลาที่ได้  ไปล้างน้ำเปล่าคับ สัก 2-3 น้ำคับ  หลังจากนั้น ให้นำตู้เปล่าไปวางในที่ ที่จัดเตรียมพื้นที่ไว้ แล้วค่อยใส่น้ำคับ ตามระดับที่ผู้ค้าปลาแนะนำ ใส่ออคซิเจนลงตู้แล้วเปิดให้ออคซิเจนตีน้ำไปเรือ่งๆก่อนคับ แล้วนำถุงที่ใส่ปลาแช่ลงตู้ปลา เืพื่อปรับอุณภูมิให้กับน้ำให้เท่ากัน ไม่งั้นถ้าคุณมาถึงใส่ปลาเลย  ปลาอาจตายหรือเสียการทรงตัวได้คับ  ควรที่จะมีการพักปลา อย่างที่บอก นะคับสัก 15-20 นาที  แล้วค่อยปล่อยปลาลงตู้คับ  อย่าเพิ่งรีบให้อาหารนะคับ ควรเว้นไปก่อนสัก 2วัน  แล้วค่อยให้คับ การคำนวน ปริมาตร น้ำในตู้คับ มีหลักดังนี้คับ   กว้าง *  ยาว * สูง หารด้วย 1000   ก็จะได้ปริมาตรของน้ำที่ใส่ในตู้คับ  ถ้างง นะคับ ผมจะอธิบายให้ฟัง  ตู้ 24 นิ้ว คูณ 15 นิ้ว คูณ 12 นิ้ว แล้วหารด้วย 1000  จะได้เท่ากับ 69.12 ลิตร คับ  ก็ให้เอา ขวดใส่น้ำคับขนาด 6ลิตร  เอาค่าที่ได้ 69.12 หาร 6 ก็จะได้  11.52  ก็คือจำนวนครั้งของขวดที่ใส่น้ำสำหรับตู้ปลาคับ  ใส่ จำนวน 11 ขวดของขวด6 ลิตรคับ   ง่ายขึ้นมั้ยคับ เหอ เหอ เหอ
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น